ฟันโยก จำเป็นต้องถอนฟันหรือ?

ปลายทางของ ฟันโยก ส่วนใหญ่มักลงเอยด้วยการสูญเสียฟัน หรือจำเป็นต้องถอนฟันเสมอไปหรือไม่? BFC Dental มีคำตอบมาให้

ปัญหาการเกิด ฟันโยก 

เมื่อเกิดปัญหาฟันโยก ในที่นี้เราจะพูดถึงกรณีที่ฟันแท้ที่ขึ้นแทนฟันน้ำนมเรียบร้อยแล้ว ว่าฟันโยก เกิดได้จากสาเหตุอะไรบ้าง

  • ฟันผุ เป็นปัญหาส่วนใหญ่ของการเกิดฟันโยกเมื่อฟันซี่นั้นได้ถูกเชื้อโรคหรือแบคทีเรียเข้าทำลายเนื้อฟัน
  • กัดฟัน การนอนกัดฟันจะทำให้ฟันกระทบกันอย่างรุนแรง และในขณะเวลานอนเราจะไม่รู้ตัวว่าฟันเราได้เกิดการกระทบกันในแรงเท่าใด แต่ปัญหาที่ตามมาหลังจากการนอนกัดฟันส่วนใหญ่คือ ตื่นมาจะปวดศีรษะและปวดบริเวณใบหน้า ซึ่งการกัดฟันอาจเป็นสัญญาณบอกด้วยว่าคุณกำลังพบปัญหาของการสบฟันที่ผิดปกติ
  • โรคเหงือก เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่เริ่มเข้าไปทำลายบริเวณเหงือก รวมถึงเชื้อโรคเริ่มเข้าไปทำลายรากฟันแล้ว จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ฟันโยกได้ และอาจเกิดโรคปริทันต์อักเสบเรื้อรังแทรกซ้อนขึ้นด้วยก็ได้หากไม่ได้รับการรักษา
  • อุบัติเหตุ ผู้ที่มีปัญหาฟันโยกอาจเคยประสบอุบัติเหตุที่กระทบกระเทือนบริเวณใบหน้า หรือกระทบกับฟันโดยตรง
  • ผู้ใส่อุปกรณ์จัดฟัน โดยผู้ที่จัดฟันส่วนใหญ่จะพบปัญหาฟันโยกเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วจากการใส่อุปกรณ์จัดฟัน แต่การมีฟันโยกที่อยู่ในภาวะเสี่ยงของผู้ที่จัดฟันนั้นคือ ผู้ที่จัดฟันมาเป็นระยะเวลานานหรือผู้ที่ใส่อุปกรณ์จัดฟันที่ไม่พอดี เช่น อุปกรณ์ทำให้เกิดความรู้สึกบีบรัดแน่นจนเกินไป จนมีอาการปวดและตึงในระยะเวลานาน เพราะฉะนั้นผู้ที่จัดฟันควรสังเกตตนเองด้วยว่ามีอาการผิดปกติของเหงือกและฟันหลังจากการปรับอุปกรณ์หรือการใส่อุปกรณ์จัดฟันครั้งแรกเป็นระยะเวลานานเกิดไปหรือไม่

ฟันโยก จำเป็นต้องรอวันหลุดหรือไม่?

ฟันโยก อาจไม่ต้องลงท้ายด้วยการสูญเสียฟันเสมอไป เมื่อผู้ที่มีฟันโยกได้เข้ารับการรักษาจากทันตแพทย์แล้ว ฟันโยกมีหลายระดับจากระดับเริ่มต้นที่ยังสามารถรักษาและเก็บฟันไว้ได้ ไปจนถึงฟันโยกระดับรุนแรง โดยส่วนใหญ่จะมีปัญหาสุขภาพด้านอื่นเข้าร่วมด้วย เช่น ฟันผุเรื้อรัง โรคปริทันต์อักเสบ ซึ่งทันตแพทย์จะสามารถวินิจฉัยได้ว่าจำเป็นต้องถอนฟันซี่ที่มีปัญหาทิ้งหรือไม่ หากฟันซี่นั้นไม่สามารถทำการรักษาได้แล้วจึงจำเป็นต้องถอนออกและป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดการลุกลามหรือติดเชื้อไปยังฟันแท้ที่แข็งแรง

เปลี่ยนฟันโยกให้เป็นฟันแข็งแรงได้ ถ้ารักษาถูกวิธี

ฟันโยก

ก่อนอื่นเลย อย่างที่ทราบกัน วิธีการแก้ปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีที่สุดเมื่อพบความผิดปกติของตนเอง คือการรีบเข้ารับคำปรึกษาแนะนำจากทันตแพทย์ให้เร็วที่สุด หลังจากนั้นทันตแพทย์จะทำการวินิจฉัยถึงแนวทางในการรักษาต่อไป ซึ่งในกรณีที่ฟันโยกของคนไข้อยู่ในเกณฑ์ระดับเริ่มต้นที่สามารถรักษาฟันซี่นั้นไว้ได้ การรักษารากฟัน เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาเพื่อให้ฟันแท้ของคุณยังคงอยู่ เนื่องจากฟันถูกทำลายด้วยแบคทีเรียและมีการติดเชื้อถึงโพรงประสาทฟัน โดยการรักษารากฟันจะสามารถแก้ปัญหาฟันที่เกิดการติดเชื้อและการอักเสบได้โดยการทำความสะอาดรากฟัน เพื่อให้ฟันกลับมาแข็งแรงและไม่เป็นการทำลายฟันที่อยู่บริเวณรอบข้างจากการติดเชื้ออีกด้วย หรือในกรณีที่ต้องถอนฟันแท้ออกก็จะมีการรักษาที่เรียกว่า การทำรากเทียม เพื่อทดแทนฟันแท้สูญเสียไปได้ และอีกหนึ่งทางเลือกในการป้องกันการเกิดฟันโยกสำหรับผู้ที่จัดฟัน ด้วย การจัดฟันใส ClearSmile ก็เป็นทางเลือกที่สามารถตอบโจทย์ได้ เพราะอุปกรณ์ที่มีคุณสมบัติที่ยืดหยุ่น แต่การเคลื่อนตัวของฟันยังคงประสิทธิภาพเท่าเดิม และยังปกป้องจากความเสี่ยงการเกิดเหงือกร่นหลังการจัดฟัน รวมถึงระหว่างการใส่อุปกรณ์จัดฟันได้ด้วย เพื่อสุขภาพฟันที่ดีและสามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน อย่าลืมตรวจสอบถึงความผิดปกติของสุขภาพช่องปากและฟันอยู่เสมอ และควรเข้าพบทันตแพทย์อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาฟันโยกหรือสุขภาพช่องปากและฟันในด้านอื่นๆ สามารถเข้ารับบริการหรือคำแนะนำจากทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านได้ที่ BFC Dental ได้ทุกสาขา

 

Recommended Posts