ไม่อยาก ฟันสึก ต้องหยุดพฤติกรรมเหล่านี้
ฟันสึก อาจจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่กับผู้ที่มีอายุน้อยและยังมีสุขภาพฟันที่ดีอยู่ แต่ถ้าขาดการดูแลที่ดีหรือมีพฤติกรรมบางอย่างที่อยู่ในเกณฑ์เสี่ยงที่ทำลายผิวฟัน และถ้าไม่อยากฟันสึกก็ต้องหยุดพฤติกรรมเหล่านี้
ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่า ฟันสึก คืออะไร
ฟันสึก คือการสูญเสียเนื้อฟัน ที่เกิดจากกรด ไม่ว่าจะเกิดจากอาหารที่เรารับประทาน กรดจากอากาศ และกรดจากกระเพาะอาหาร ซึ่งมีผลทำให้ผิวหน้าฟันที่มีเคลือบฟันอยู่ค่อยๆ หลุดหายไป โดยอาการของฟันสึกนั้นจะทำให้รู้สึกเสียวฟัน หรือเจ็บฟันจี๊ดเมื่อรับประทานอาหารร้อนจัดหรือเย็นจัด แถมยังพ่วงปัญหาเศษอาหารติดฟันหลังรับประทานอาหารร่วมด้วย
หยุด! พฤติกรรมเหล่านี้ถ้าไม่อยาก ฟันสึก
❌แปรงฟันผิดวิธีหรือเลือกแปรงสีฟันไม่เหมาะสม อย่าเข้าใจผิดว่าการแปรงฟันแรงจะทำให้ฟันสะอาด เพราะนั่นหมายถึงว่าคุณกำลังแปรงฟันผิดวิธี เนื่องจากการแปรงฟันโดยออกแรงมากๆ ทำให้ขนของแปรงสีฟันนั้นขูดเอาเคลือบผิวฟันออก และยิ่งแปรงสีฟันที่ใช้มีลักษณะขนแปรงที่แข็งเกินไปก็ยิ่งเพิ่มการทำลายผิวฟันมากขึ้น เมื่อเคลือบผิวฟันค่อยๆ หลุดออกมาจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ฟันสึก อีกทั้งยังทำให้มีอาการเหงือกร่นและเหงือกอักเสบร่วมด้วย หลังจากนั้นอาการเสียวฟัน เจ็บฟัน จะตามมานั่นเอง
❌ทานอาหารที่มีลักษณะแข็งหรือเหนียว เช่น กระดูกอ่อนหรือเนื้อสัตว์ที่เหนียว ก็เป็นสาเหตุทำให้ฟันสึกเช่นกัน เพราะฟันมีการใช้แรงกัดที่มากขึ้นจึงกระตุ้นให้สารเคลือบฟันหลุดออกจากตัวฟันได้
❌ทานอาหารที่มีรสเปรี้ยว รวมถึงการดื่มน้ำอัดลม เนื่องจากอาหารที่มีรสเปรี้ยว เช่น ส้ม มะนาว เป็นกรดซึ่งทำให้สารเคลือบฟันหลุดจากการกัดเซาะให้ฟันอ่อนแอได้ เมื่อรับประทานอาหารที่มีรสเปรี้ยวจะสังเกตได้จากคุณจะมีอาการเข็ดฟันและเสียวฟันมากขึ้นกว่าเดิม ส่วนการดื่มน้ำอัดลมก็เป็นสาเหตุทำให้ฟันสึกได้เช่นกัน และหากดื่มเป็นประจำก็มีจะอาการฟันผุร่วมด้วย เนื่องจากน้ำอัดลมมีส่วนประกอบของน้ำตาลเป็นจำนวนมาก
❌นอนกัดฟัน ผู้ที่มีพฤติกรรมนอนกัดฟันก็เป็นการทำลายผิวฟันและตัวฟันอย่างรุนแรงโดยไม่รู้ตัว เพราะการกัดฟันต้องใช้แรงกัดและแรงเคี้ยวค่อนข้างแรง ซึ่งบางคนที่มีพฤติกรรมการนอนกัดฟันรุนแรงอาจมีอาการปวดหัวเมื่อตื่นนอน จึงควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อรักษาและป้องกันการเกิดโรคอื่นๆ เพิ่มเติม
ใครที่มีพฤติกรรมเสี่ยงแบบนี้ ลองปรับเปลี่ยนเสียใหม่ เพื่อรักษาและป้องกันไม่ให้ฟันสึก ฟันกร่อน ก่อนเวลาอันควร หากมีพฤติกรรมดังกล่าวต่อเนื่องอาจทำให้คุณสูญเสียฟันแท้ได้อย่างถาวร และทางที่ดีควรเข้าพบทันตแพทย์ทุกๆ 6 เดือน เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและฟัน ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีเพื่อป้องกันการเกิดฟันสึก อีกทั้งจะไม่ทำให้ประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวอาหารลดลงด้วย