สีเหงือก บอกอะไร?

สีเหงือก เป็นการบ่งบอกถึงสุขภาพเหงือกว่าอยู่ในเกณฑ์ดีหรือไม่ดีได้จริงหรือ นอกจากสุขภาพฟันที่เราต้องดูแลทำความสะอาดแล้ว การดูแลเหงือกให้อยู่ในสุขภาพดีก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน แล้วสีเหงือกแบบไหนบอกอะไรเราได้บ้างล่ะ?

สีเหงือก สุขภาพดี ต้องตามเม็ดสีผิว หรือสีชมพูอ่อน

  • เหงือกสีชมพู ผู้ที่มีเหงือกสีชมพูเป็นไปได้ 2 อย่างหลักๆ คือผู้ที่มีสุขภาพเหงือกดีเยี่ยม และผู้ที่เหงือกตามธรรมชาติของสีผิว เช่น ผู้ที่มีเม็ดสีผิวน้อยหรือผู้ที่มีผิวขาว มักจะมีเหงือกเป็นสีชมพู
  • เหงือกสีน้ำตาล บางคนอาจเข้าใจผิดว่าผู้ที่มีเหงือกสีน้ำตาลอาจมีสุขภาพเหงือกที่ไม่ดีหรือเปล่า แต่ที่จริงแล้วการมีเหงือกสีน้ำตาลก็เป็นไปได้ตามธรรมชาติของสีผิว เช่น ผู้ที่มีเม็ดสีผิวเป็นจำนวนมากหรือผู้ที่มีสีผิวเข้ม หรืออาจโดนแสงแดดมากจนเกินไป เพราะฉะนั้นการมีเหงือกสีนี้ก็ไม่ได้สื่อถึงสุขภาพเหงือกที่มีปัญหา

สีเหงือก แบบไหนถึงอยู่ในเกณฑ์สุขภาพเหงือกเริ่มมีปัญหา

  • เหงือกสีเหลือง เป็นอาการเริ่มต้นของเหงือกที่กำลังจะมีปัญหา โดยเหงือกจะมีลักษณะเหลืองซีด และมีอาการบวมร่วมด้วย เป็นไปได้ว่าเหงือกอาจจะเริ่มมีหนอง แต่ท้ายที่สุดถ้ามีอาการเจ็บปวด บวม และตึงๆ บริเวณเหงือก เป็นหนอง นั่นหมายถึงเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส รวมถึงการเกิดแผลในกระเพาะอาหารนั่นเอง
  • เหงือกสีดำ สำหรับผู้ที่มีเหงือกสีดำ เกิดได้จากพฤติกรรมของตนเองเป็นส่วนใหญ่ เช่น สูบบุหรี่จัด หรือต้องรับประทานยาปฏิชีวนะเป็นระยะเวลานาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสีของเหงือกและฟันเป็นเรื่องปกติ เพราะฉะนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้ที่มีเหงือกดำนั่นก็คือไม่มีความมั่นใจสักเท่าไหร่ เช่น เวลายิ้มหรือพูดคุยกับผู้อื่น หากผู้ที่กังวลกับสีเหงือกก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการปรึกษาทันตแพทย์หรือศัลยแพทย์ด้านเหงือกโดยเฉพาะ
  • เหงือกสีแดง ใครที่มีเหงือกสีแดงก็บ่งบอกถึงสัญญาณอันตรายแล้วว่าเหงือกของคุณกำลังมีปัญหา และหากมีอาการเจ็บปวดหรือบวมร่วมด้วย นั่นหมายความว่าคุณเกิดภาวะเหงือกอักเสบแล้ว ควรรีบเข้าพบทันตแพทย์โดยด่วนก่อนจะเกิดโรคปริทันต์เรื้อรัง และร้ายแรงที่สุดคุณอาจสูญเสียฟันแท้ไปก่อนเวลาอันควร

สีเหงือก

ดูแลสุขภาพเหงือก เพื่อให้มี สีเหงือก ที่ดี

การดูแลเหงือกและฟันให้ถูกวิธี ก็สามารถทำให้อายุเหงือกและฟันอยู่กับเราไปได้อีกนาน และยังป้องกันการมีกลิ่นปาก หินปูน เกิดเลือดออกตามไรฟัน เหงือกบวมที่เป็นจุดเริ่มต้นของโรคปริทันต์ที่นำไปสู่การสูญเสียฟันแท้อีกด้วย 

  • ทำความสะอาดเหงือกและฟันให้ทั่วถึงและสะอาดอยู่เสมออย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หรือหลังมื้ออาหารใหญ่
  • เลือกขนแปรงสีฟันที่มีความอ่อนนุ่ม ไม่แข็งกระด้างจนเกินไป เพราะทำให้เกิดการเสียดสีที่รุนแรงและเกิดภาวะเหงือกอักเสบได้
  • เลือกยาสีฟันที่ไม่ได้มีคุณสมบัติป้องกันแค่สุขภาพฟัน แต่ต้องมีคุณสมบัติที่สามารถดูแลสุขภาพเหงือกได้ด้วย
  • หมั่นสังเกตสีเหงือกว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปมากจนเกินไปหรือไม่ เนื่องจากสีเหงือกก็เป็นอาการที่เราสามารถสังเกตได้เบื้องต้นว่าสุขภาพโดยรวมของร่างกายอยู่ในเกณฑ์ใด หากสีเหงือกเริ่มมีความผิดปกติหรือเปลี่ยนสีตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น ควรเข้าพบทันตแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาทันที
  • ควรเข้าพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสภาพเหงือกและฟันอย่างน้อย 6 เดือนครั้ง รวมถึงขูดหินปูนเพื่อทำความสะอาดช่องปากให้ดีขึ้น และรับคำแนะนำจากทันตแพทย์ถึงการดูแลสุขภาพโดยรวมของเหงือกและฟันให้แข็งแรง
Recommended Posts