ทำไมบางคนต้อง จัดฟันรอบสอง

เหตุผลสำหรับบางคนที่ต้อง จัดฟันรอบสอง หรือบางคนอาจมีครั้งที่ 3 หรือ 4 ก็ได้ ซึ่งเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นด้วยวิธีหลังการดูแลตนเองหลังถอดอุปกรณ์จัดฟันหรือการเปลี่ยนแปลงตามโครงสร้างของช่องปากและฟัน

จัดฟันรอบสอง เกิดจากการจัดฟันที่ไม่รู้วันสิ้นสุด

เกิดจากการวางแผนการรักษาที่ไม่ดีพอ ซึ่งไม่ได้เกิดจากการรักษาของทันตแพทย์เท่านั้น สำหรับคนไข้เองก็เช่นกัน เพราะการติดอุปกรณ์จัดฟันไม่ได้มีเพียงขั้นตอนตรวจรักษาและใส่อุปกรณ์จัดฟันได้เลย ยังมีขั้นตอนและรายละเอียดอื่นๆ อีก เพราะการจัดฟันแต่ละประเภทนั้น ไม่ได้มีสูตรสำเร็จตายตัว เพราะรูปร่าง โครงสร้าง และการเรียงตัวของฟันในแต่ละคนไม่เหมือนกัน ซึ่งการจัดฟันรอบสองนั้นมักเกิดจากความผิดพลาดในการจัดฟันรอบแรก โดยผลลัพธ์หลังการจัดฟันอาจจะยังไม่เป็นที่น่าพอใจสำหรับคนไข้ เช่น จัดฟันแล้วแต่ยังรู้สึกว่าฟันยังยื่นอยู่ เนื่องจากการจัดฟันรอบแรกไม่ได้ผ่านขั้นตอนของการถอนฟันมากก่อน  เพราะฉะนั้นการวางแผนการรักษาจะต้องไปพร้อมกันทั้งสองทาง คือ การรักษาจากทันตแพทย์ที่เป็นผู้ทำหน้าที่วางแผนการเคลื่อนที่ของฟันตั้งแต่ต้นจนจบการรักษาและคนไข้ที่ต้องมีวินัยระหว่างการจัดฟันและหลังการจัดฟันควบคู่กันไปกับการรักษาของทันตแพทย์ด้วย ทำให้ผลลัพธ์ในการจัดฟันของคนไข้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด และลดโอกาสการกลับมาจัดฟันใหม่ในอนาคต

ฟันล้มจากการไม่ใส่รีเทนเนอร์ ยังเป็นประเด็นหลักสำหรับการจัดฟันรอบสองได้อยู่เสมอ

เนื่องจากการไม่ใส่รีเทนเนอร์นั้นทำให้ฟันเกิดการเคลื่อนที่กลับไปอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม ยิ่งในช่วงหลังจากการถอดอุปกรณ์จัดฟันในครั้งแรก การใส่รีเทนเนอร์เป็นเรื่องที่คนจัดฟันต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมากเพราะในช่วงระยะแรกจะทำให้ฟันเคลื่อนตัวกลับได้อย่างรวดเร็ว อย่าลืมว่าการจัดฟันก็เหมือนกับการฝืนธรรมชาติของฟัน เพื่อให้ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นหลังการจัดฟันคือการมีฟันที่เรียงตัวสวย ซึ่งรีเทนเนอร์จะทำหน้าที่เพื่อคงสภาพฟันได้มากที่สุด หากขาดการใส่รีเทนเนอร์ ด้วยธรรมชาติของฟันก็จะเคลื่อนตัวทำให้เกิดปัญหาฟันล้ม ฟันห่าง ฟันซ้อนเกได้ไม่ต่างจากก่อนที่จะตัดสินใจจัดฟันเลยก็ได้

ฟันเคลื่อนที่ได้ตลอด รวมทั้งผู้ที่ไม่ได้จัดฟัน

ธรรมชาติของฟันสามารถเคลื่อนที่ได้ตลอดเวลา ฟันจะเคลื่อนเพื่อหาตำแหน่งที่เหมาะสมตามธรรมชาติของฟันอยู่แล้ว รวมถึงผู้ที่ไม่ได้จัดฟัน สาเหตุของฟันเคลื่อนเกิดขึ้นได้หลายอย่าง เช่น การเจริญเติบโตของขากรรไกร ฟันคุดงอกเบียดกับฟันซี่อื่น การใช้แรงฟันมากจากการรับประทานอาหาร แต่สำหรับผู้ที่จัดฟันจะมีเหตุผลเกี่ยวกับการไม่มีวินัยในการใส่รีเทนเนอร์ด้วย

จัดฟันใส Käse Aligner ทางเลือกที่ดีสำหรับการจัดฟันรอบสอง

จัดฟันรอบสอง

แน่นอนว่าการจัดฟันรอบสองสำหรับบางคนนั้นคงไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่นัก แต่เพื่อให้การมีฟันที่เรียงตัวที่ดี และในกรณีที่มีปัญหาในเรื่องฟันซ้อน ฟันเก ฟันห่าง หรือสุขภาพฟันอื่นๆ ตามมาด้วย จึงต้องแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการจัดฟัน ซึ่งการจัดฟันใส Käse Aligner สามารถตอบโจทย์ให้กับผู้ที่จัดฟันรอบสองได้อย่างไร?

  • ฟันล้มหลังจากการจัดฟันมาแล้ว หรือจะได้พบปัญหา ฟันซ้อนเก ฟันห่าง ที่อาจจะเกิดขึ้นมากหรือน้อยก็ไม่เป็นปัญหาเมื่อจัดฟันด้วยอุปกรณ์จัดฟันใส Käse Aligner ซึ่งผู้ที่ผ่านการจัดฟันแบบโลหะมาอาจจะเกิดความรู้สึกไม่อยากจัดฟันใหม่เพราะรู้สึกไม่ดีเมื่อใส่เหล็ก ไหนจะเรื่องทำความสะอาดที่ค่อนข้างยากด้วย การจัดฟันใสKäse Aligner จึงเป็นทางเลือกที่ดีเพราะด้วยตัวอุปกรณ์ไม่มีการยึดติดแน่น และสามารถถอดทำความสะอาดได้ง่าย
  • ไม่มีปัญหาเหงือกร่นเหงือกอักเสบหลังถอดเครื่องมือจัดฟัน เหงือกร่นคืออาการที่เหลือจะมีลักษณะเปลี่ยนไปด้วยเนื้อเยื่อของเหงือกบริเวณฟัน โดยสาเหตุที่ทำให้เหงือกร่นก็เกิดจากการใส่อุปกรณ์จัดฟันมาเป็นเวลานาน เพราะเครื่องมือมีการบีบ ดึง รัด ทั้งเหงือกและฟัน บางคนมีอาการเหงือกอักเสบร่วมด้วยหากเครื่องมือมีการบีบรัดแน่นจนเกินไป ทำให้เกิดการลังเลเมื่อต้องเข้ารับการจัดฟันรอบสองเพราะไม่ต้องการใส่อุปกรณ์จัดฟันชนิดโลหะ ซึ่งการจัดฟันใส Käse Aligner ก็สามารถเป็นทางออกและวิธีการรักษาอีกทางหนึ่ง เนื่องจากวัสดุของอุปกรณ์ได้ผลิตจากวัสดุพิเศษที่เป็นมิตรกับเหงือกและฟัน และไม่บาดกระพุ้งแก้มด้วย ทำให้คุณมั่นใจว่าการจัดฟันรอบสองของคุณโดยใช้อุปกรณ์จัดฟันใส Käse Aligner จะไม่มีการระคายเคืองกับสุขภาพช่องปากและฟันของคุณอย่างแน่นอน

นี่คือสาเหตุหลักๆ รวมถึงทางเลือกที่ดีเมื่อคุณจำเป็นต้องจัดฟันรอบสอง และผู้ที่เคยผ่านการจัดฟันมาจะเข้าใจดีว่า กว่าการรักษาจะสำเร็จและได้ผลลัพธ์ที่ดีนั้นต้องใช้ระยะเวลาขนาดไหนกว่าจะได้ฟันที่เรียงตัวสวย แต่เมื่อเกิดปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันขึ้นและทันตแพทย์วินิจฉัยแล้วว่าต้องแก้ไขด้วยวิธีการจัดฟัน ขอแนะนำอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีคือการจัดฟันใส Käse Aligner เพื่อให้คุณมีรอยยิ้มสวย และป้องกันความเสี่ยงของการเหงือกร่นที่เกิดขึ้นจากการจัดฟันของคุณที่มากกว่าหนึ่งครั้ง โดยมีระยะเวลาในการรักษาเพียง 4 เดือน – 2 ปี (ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของแต่ละเคส) สำหรับผู้ที่ต้องการคำแนะนำและคำปรึกษาเพิ่มเติมกับทันตแพทย์จาก BFC Dental สามารถติดต่อได้ที่คลินิก BFC ทุกสาขา

 

Recommended Posts